Please Wait
ผู้เยี่ยมชม
15385
อัปเดตเกี่ยวกับ: 2554/09/25
รหัสในเว็บไซต์ fa1006 รหัสสำเนา 16981
หมวดหมู่ สิทธิและกฎหมาย
คำถามอย่างย่อ
กฏการโกนเคราและขนบนร่างกายคืออะไร?
คำถาม
การโกนเคราขนบนใบหน้า หรือการกำจัดขนบนร่างกายด้วยเครื่องมือโกนหนวด หรือมีดโกนหนวดและสิ่งอื่นสำหรับชายแล้วมีกฏว่าอย่างไรบ้าง?
คำตอบโดยสังเขป

เฉพาะการโกนเคราบนใบหน้า[1] ด้วยมีดโกนหรือเครื่องโกนหนวดทั่วไป ถึงขั้นที่ว่าบุคคลอื่นเห็นแล้วกล่าวว่า บนใบหน้าของเขาไม่มีหนวดแม้แต่เส้นเดียว, ฉะนั้น เป็นอิฮฺติยาฏวาญิบถือว่าไม่อนุญาต[2] แน่นอนการโกนหนวดเคราบางส่วนก็ถือว่าอยู่ในกฏเดียวกันกับการโกนหนวดเคราทั้งหมด[3] ด้วยเหตุนี้ การโกนขนที่บนติ่ง คอ หลัง และต้นคอจึงไม่ถือว่าอยู่ในกฎของการโกนเครา เช่นเดียวกันการโกนขนรักแร้ ด้วยเครื่องมือที่กล่าวมา ถือว่าไม่เป็นไร

สิ่งจำเป็นต้องกล่าวคือ อิสลามได้ให้ความสำคัญต่อความสะอาดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการกำชับให้โกนขนภายใต้ร่มผ้า ขนที่ขึ้นตามส่วนอื่นของร่างกาย ดังนั้น ขอโน้มนำท่านผู้อ่านโปรดพิจารณาคำอธิบายด้านพลานามัยดังนี้

1- การโกนผม หรือโกนขนตามที่ต่างๆ หรือสระล้างและหวีให้สะอาดตลอดเวลาถือเป็นมุสตะฮับ[4]

2- การโกนหนวด[5] ตัดขนจมูก[6] โกนขนรักแร้[7]เป็นมุสตะฮับ

3- การโกนขนบริเวณหว่างขา หรือบริเวณของสงวน, เป็นการแสดงให้เหตุถึงความศรัทธาที่มีต่ออาตมันบริสุทธิ์ของพระเจ้า และวันฟื้นคืนชีพ และยังเป็นซุนนะฮฺของท่านเราะซูล (ซ็อล ฯ) [8]

4-การโกนขนต่างๆ บริเวณส่วนอื่นของร่างกาย,เป็นสาเหตุให้ร่างกายสะอาด อีกทั้งยังมีคุณสมบัติพิเศษอื่นอีกสำหรับร่างกายและจิตวิญญาณ ซึ่งการปล่อยสิ่งเหล่านี้เอาไว้เป็นสาเหตุของอันตรายอาจเกิดกับร่างกายและจิตใจ[9]



[1] การขึ้นของเคราบนใบหน้าของผู้ชาย เกิดขึ้นครั้งเมื่ออาดัม (อ.) ได้วอนขอต่ออัลลอฮฺว่า โอ้ พระผู้อภิบาลของฉันโปรด ทำให้ใบเสริมสร้างใบหน้าของชายให้มีความงามยิ่งขึ้น ซึ่งอัลลอฮฺ ทรงตอบแก่อาดัมว่า ข้าได้ให้เคราเป็นสิ่งประดับสำหรับเจ้าและบุตรหลานของเจ้า ตราบจนถึงวันแห่งการฟื้นคืนชีพ รายงานจากท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) กล่าวว่า “จงปล่อยเคราให้ยาวจะได้ไม่เหมือนกับยะฮูดียฺและนัศรอนียฺ ศึกษาได้จาก : ฮิลลียะตุลมุตตะกีน, หมวดที่ 5 บทที่ 4-5.

[2] คำฟัตวาท่านอิมามโคมัยนี, เล่ม 2 (มะกาซิบมุฮัรเราะมะฮฺ), หน้า 30, คำถามที่ 79, หน้า 31, คำถามที่ 81, หน้า 32, คำถามที่ 84.

[3] การปล่อยเคราไว้เล็กน้อยถือว่าเพียงพอหรือไม่? บรรดามัรญิอฺทั้งหมด (ยกเว้นอายะตุลลอฮฺ อัลอุซมาตับรีซียฺ และมะการิม) : ถือว่าไม่เพียงพอ ซึ่งถือว่าอยู่ในกฏการโกนเคราทั้งหมด.อิมาม, อิสติฟตาอาต เล่ม 2, มะกาซิบ มุฮัรเราะมะฮฺ, คำถามที่ 84, อายะตุลลอฮฺ วะฮีด, มินฮาจญฺซอลิฮีน, เล่ม 3 ปัญหาข้อที่ 43, อายะตุลลอฮฺ คอเมเนอี, อัจญฺวับ อัลอิสติฟตาอาต, คำถามที่ 1413, อายะตุลลอฮฺ ซิตตานียฺ, Sistani.org, การโกนเครา คำถามที่ 1,3 อายะตุลลอฮฺ ซอฟียฺ, ญามิอุลอะฮฺกาม, เล่ม 2 คำถามที่ 1743, อายะตุลลอฮฺบะฮฺญัติ, เตาฎีฮุลมะซาอิล, มุตะฟัรริเกาะฮฺ, คำถามที่ 4, อายะตุลลอฮฺ นูรียฺ อิสติฟตาอาต เล่ม 1 คำถาม 492, 493, อายะตุลลอฮฺ ฟาฏิล, ญามิอุลมะซาอิล เล่ม 1 คำถามที่ 955, 957.

[4] ฮิลลียะตุลมุตตะกีน, หมวดที่ 5 บทที่ 3

[5] รายงานกล่าววา “การโกนหนดวเป็นหนึ่งในซุนนะฮฺของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) หนวดที่ยาวคือสถานที่อยู่อาศัยของชัยฏอน การตัดหนวดเป็นสาเหตุให้ริสกีเพิ่มพูน ขจัดความเศร้าหมองและอยู่ในความปลอดภัย ส่วนบุคคลใดที่ไม่โกนหนวดถือว่าไม่ใช่พวกเรา.” ฮิลลียะตุลมุตตะกีน,หมวด 5 บทที่ 4

[6] การตัดหรือถอนขนจมูกคือสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าคมสัน.ฮิลลียะตุลมุตตะกีน,หมวด 5 บทที่ 7

[7] ขนรักแร้คือสถานที่อยู่ของชัยฏอนมารร้าย.แน่นอนวิธีการทำความสะอาดบริเวณนั้นได้รับการแนะนำไว้ : ส่วนการใช้ยาขจัดขนดีกว่าการโกน ส่วนการโกนนั้นดีกว่าการถอน อ้างแล้วเล่มเดิม

[8] การโกนขนบริเวณดังกล่าว, แสดงให้เห็นว่ามีศรัทธาต่อพระเจ้าและเป็นหนึ่งในซุนนะฮฺของท่านศาสดา, อ้างแล้วเล่มเดิม บทที่ 8

[9] การโกนขนบริเวณต่างๆ บนร่างกายคือสาเหตุทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ขจัดความทุกข์เศร้า และอันตรายต่างๆ ตลอดจนเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายสะอาด และเป็นหนึ่งในจริยธรรมของศาสดา.อ้างแล้วเล่มเดิม บทที่ 9

คำตอบเชิงรายละเอียด
คำถามนี้ไม่มีคำตอแบบรายละเอียด