ตามรายงานกล่าวว่า มวลมลาอิกะฮฺถูกสร้างหลังจากการสร้างรูฮฺของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) และบรรดาอิมาม (อ.) พวกเขาทั้งหมดแม้แต่ญิบรออีล,อิสรอฟีลและมลาอิกะฮฺอื่นๆ ชั้นใกล้ชิดพระเจ้าจะตายก่อนวันแห่งการฟื้นคืนชีพ. ส่วนมลาอิกะฮฺจะตายอย่างไรนั้นมีความเป็นไปได้หลายกรณี, ซึ่งวัตถุประสงค์อาจหมายถึง การยุติความต่อเนื่องของวิญญาณ หรือการยุติกิจกรรมที่กระทำมาโดยต่อเนื่องของพวกเขา
ตามรายงานจำนวนมากมายกล่าวว่า มวลมลาอิกะฮฺเป็นกลุ่มผู้ล่วงหน้าในการสร้าง ซึ่งพระองค์ทรงสร้างพวกเขามาก่อนสิ่งอื่นใด,เนื่องจากรายงานของเรากล่าวว่า พระองค์ทรงสร้างมลาอิกะฮฺหลังจากการสร้างประกายรัศมีวิญญาณบริสุทธิ์ของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อล ฯ) และบรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ (อ.)[1] ขณะที่บางรายงานที่เชื่อถือได้ในขั้นมุตะวาติรระบุว่า สิ่งแรกที่อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงสร้างขึ้นมาคือประกายรัศมีของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อล ฯ) และบรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ (อ.) หลังจากนั้นพระองค์ทรงสร้างท้องฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน หลังจากนั้นทรงสร้างมวลมลาอิกะฮฺ
ท่านญาบิร บุตรของอับดุลลอฮฺ อันซอรีย์ กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านเราะซูล (ซ็อล ฯ) กล่าวว่า : แท้จริงอัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงสร้างฉัน อะลี ฟาฏิมะฮฺ ฮะซัน ฮุซัยนฺ และอะอิมมะฮฺท่านอื่นมาจากประกายรัศมีเดียวกัน,หลังจากนั้นทรงสร้างประกายรัศมีผู้เชื่อฟังปฏิบัติตามเรา และ ...หลังจากนั้นทรงสร้างท้องฟ้าทั้งหลาย แผ่นดิน และมวลมลาอิกะฮฺ ....[2]
แต่ส่วนความตายของมวลมลาอิกะฮฺ,จะสังเกตเห็นว่าก่อนวันแห่งการฟื้นคืนชีพสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งในฟากฟ้า และแผ่นดินจะต้องตายหมดสิ้น ดังที่อัลกุรอานได้กล่าวเน้นย้ำถึงประเด็นนี้ว่า “และแตรได้ถูกเป่าขึ้น แล้วบรรดาผู้ที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินจะล้มลงตาย เว้นแต่ผู้ที่อัลลอฮฺทรงประสงค์”[3] โองการข้างต้นนี้อันดับแรกกล่าวว่า ทุกสิ่งทั้งในฟากฟ้าและแผ่นดินต้องมลายสิ้น นั่นหมายรวมถึงมวลมลาอิกะฮฺทั้งหมดด้วย หลังจากนั้นพวกเขาบางองค์ได้รับการยกเว้น ดังนั้น จากโองการนี้เข้าใจได้ว่า หลังจากการเป่าแตรสังข์ครั้งแรกจบลงจะมีสิ่งมีชีวิตบางกลุ่มไม่ตาย. แต่พวกเขาเป็นใครบ้างนั้น? บรรดานักตัฟซีรมีทัศนะแตกต่างกัน. บางกลุ่มเชื่อว่าพวกเขาเหล่านั้นคือ มวลมลาอิกะฮฺผู้ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า เช่น ญิบรออีล อิสรอฟีล อิซรอฟีล และมีกาอีล บางรายงานกล่าวว่า เมื่อท่านเราะซูล (ซ็อล ฯ) อ่านโองการนี้ประชาชนได้ถามท่านว่า มีใครบ้างได้รับการยกเว้นเอาไว้? ท่านเราะซูล (ซ็อล ฯ) กล่าวว่า “ญิบรออีล,มีกาอีล,อิซรอฟีล และอิสรอฟีลเทวทูตแห่งความตาย เมื่อมีบัญชาให้ดวงวิญญาณฟื้นคืนชีพขึ้นมา พวกเขาก็จะตายไปตามพระบัญชาของพระเจ้าโดยเรียงตามลำดับ[4] บางรายงานกล่าวว่าบรรดาผู้แบกบัลลังก์ของพระเจ้าคือผู้ได้รับการยกเว้นเอาไว้[5]
อย่างไรก็ตามจากรายงานต่างๆ เหล่านี้และรายงานบทอื่นที่กล่าวว่า : เมื่อช่วงเวลาของการเป่าแตรสังข์ได้มาถึง อิสรอฟีลได้เป็นผู้เป่าบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะตายหมดสิ้น,ยกเว้นอิสรอฟีลเพียงผู้เดียว แต่หลังจากนั้นอิสรอฟีลก็ตายไปตามพระบัญชาของพระเจ้าเช่นกัน[6] อัลกุรอานบางโองการ เช่น โองการที่กล่าวว่า
"کل شیء هالک الا وجهه"
“ทุกสิ้นจะมลายสิ้นยกเว้นพระพักตร์ของพระองค์”[7] ซึ่งโดยรวมแล้วอัลกุรอานกล่าวว่า ทุกสิ่งย่อมพบกับการมลายสิ้น ยกเว้นพระพักตร์ของพระเจ้าผู้ทรงสูงส่งและเกรียงไกร เข้าใจได้ว่ากลุ่มที่ได้รับการยกเว้นเอาไว้ ในที่สุดแล้วก็ต้องตายด้วยเหมือนกัน,ในลักษณะที่ว่าบนโลกนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดดำรงชีวิตอยู่อีกต่อไป ยกเว้นอัลลอฮฺ (ซบ.) แต่เพียงผู้เดียว
ส่วนมลาอิกะฮฺจะตายอย่างไร? ต้องกล่าวว่าสิ่งที่เราสามารถเข้าใจได้เกี่ยวกับความตายคือ (ดวงวิญญาณถูกถอดถอนจากร่างกาย) ซึ่งสิ่งนี้ไม่มีความหมายสำหรับมลาอิกะฮฺ,เนื่องจากพวกเขาไม่มีกายภายเหมือนมนุษย์ เพื่อว่าจะได้เข้าใจถึงการถอดถอนจิตวิญญาณ, ด้วยเหตุนี้ ความตายสำหรับมลาอิกะฮฺจึงมีความเป็นไปได้หลายอย่างกล่าวคือ:
หนึ่ง วัตถุประสงค์จากความตายเกี่ยวกับมลาอิกะฮฺคือ การยุติความสัมพันธ์ของจิตวิญญาณจากรูปแบบอันเฉพาะสำหรับพวกเขา
สอง วัตถุประสงค์อาจหมายถึง, การยุติกิจกรรมต่างๆ ที่กระทำมาอย่างต่อเนื่องของพวกเขา และการหมดศักยภาพในการรับรู้ต่างๆ[8]
ด้วยเหตุนี้ จึงได้ข้อสรุปว่ามวลมลาอิกะฮฺเป็นผู้มีอายุขัยที่ยืนยาวนานมาก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามพวกเขาก็ต้องตายเช่นเดียวกัน
[1] บิฮารุลอันวาร,เล่ม 15, หน้า 8, เล่ม 18,หน้า 345, เล่ม 24, หน้า 88
[2] บิฮารุลอันวาร,เล่ม 26, หน้า 343, 344
[3] อัลกุรอาน บทอัซซุมัร 68 "...و نفخ فی الصور فصعق من فی السموات و من فی الارض الا من شاءالله".
[4] บิฮารุลอันวาร,เล่ม 79, หน้า 184
[5] บิฮารุลอันวาร,เล่ม 6, หน้า 329
[6] บิฮารุลอันวาร,เล่ม 6, หน้า 324
[7] อัลกุรอานบทเกาะซ็อซ 88
[8] ศึกษาเพิ่มเติมได้จากตัฟซีรเนะมูเนะฮฺ, เล่ม 19,หน้า 541