ท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) มีภรรยาทั้งสิ้น 5 คน, นักประวัติศาสตร์บางท่านจำนวนบุตรของท่านท่านอิมาม (อ.) ที่เกิดจากภรรยาเหล่านี้มีจำนวน 6 คนหรือบางคนกล่าวว่ามีมากกว่า 6 คน
รายชื่อเหล่าภรรยาของท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) ประกอบด้วย
1.ท่านหญิงชะฮฺริบานู, 2.ท่านหญิงลัยลา, 3. ภรรยาท่านหนึ่งที่มาจากชนเผ่า เกาะฎออียะฮฺ, ซึ่งเธอได้เสียชีวิตไปตั้งแต่สมัยที่ท่านอิมามยังมีชีวิตอยู่, 4. ท่านหญิงรุบาบ, 5.ท่านหญิงอุมมุอิสฮาก,
ภรรยาคนเดียวของท่านอิมาม (อ.) ที่อยู่ในเหตุการณ์กัรบะลาอฺอย่างแน่นอน คือ, ท่านหญิงรุบาบมารดาของอะลี อัซฆัร, ซึ่งหลังจากเหตุการณ์กัรบะลาอฺแล้วเธอได้ถูกจับเป็นเชลย และถูกส่งตัวไปยังมะดีนะฮฺ, ส่วนท่านหญิงชะฮฺริบานูกับท่านหญิงลัยลานั้น ไม่มีหลักฐานแน่นอนว่าทั้งสองท่านได้อยู่ในกัรบะลาอฺหรือไม่.
ปัญหาดังกล่าวนี้สามารถพิจารณ์ได้ใน 2 ประเด็น :
ก) จำนวนภรรยาของท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.)
ข) อธิบายสถานภาพเหล่าภรรยาของท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.)
นักประวัติศาสตร์ผู้อาวุโสส่วนใหญ่ เช่น ท่านเชคมุฟีดได้บันทึกไว้ในหนังสือ เอรชาด ของท่านว่าจำนวนภรรยาของท่านอิมมฮุซัยนฺ (อ.) มีทั้งสิ้น 5 คน ประด้วย :
1. ท่านหญิงชะฮฺริบานู, 2.ท่านหญิงลัยลา, 3. ภรรยาท่านหนึ่งที่มาจากชนเผ่า เกาะฎออียะฮฺ, 4. ท่านหญิงรุบาบ, 5.ท่านหญิงอุมมุอิสฮาก,[1]
ส่วนสถานภาพของเหล่าภรรยาของท่านอิมามฮุซัยนฺ
ตามประวัติศาสตร์สภาพชีวิตของเหล่าภรรยาของท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) การเข้าร่วมในเหตุการณ์กัรบะลาอฺ และหลังจากนั้น, มิได้มีบันทึกอยู่ในตำราทางประวัติศาสตร์ หรือในตำราอ้างอิงอื่นมากเท่าใดนัก, แต่จะของกล่าวในลักษณะกว้างๆ ทั่วไปจากสถานภาพชีวิตของท่านเหล่านั้น
1.ท่านหญิงชะฮฺริบานู : ท่านหญิงเป็นมารดาของท่านอิมามซัจญาด (อ.) เกี่ยวกับสถานที่ถือกำเนิดและเชื้อชาติเดิมของท่านนั้นมีความขัดแย้งกันอยู่มาก, บางกลุ่มกล่าวว่านามชื่อของท่านหญิงคือ เจ้าหญิง, ราชินี, ชะฮฺริบานู, และชะฮฺริบานูวียะฮฺ. ดังนั้น ตามคำกล่าวของคนกลุ่มนี้จะเห็นว่าท่านหญิงคือ ธิดาของ Yazdegerd มหาจักรพรรดิองค์ที่ 3 ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งจักรวรรดิซาสซานิยะห์ ซึ่งมีรายงานที่กล่าวว่าหลังจากคลอดท่านอิมามซัจญาด (อ.) แล้วเธอไม่สะบายอย่างหนักและเสียชีวิตในเวลาต่อมา[2]
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นนี้ได้จาก หัวข้อการแต่งงานของท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) กับท่านหญิงชะฮฺริบานู, คำตอบลำดับที่ 19870 (ไซต์ : 19220)
2. ท่านหญิงลัยลา : มารดาของท่าน อะลีอักบัร (อ.) ซึ่งการเข้าร่วมเหตุการณ์กัรบะลาอฺและเหตุการณ์หลังจากนั้น สำหรับท่านหญิงแล้วยังมีความเคลือบแคลงอยู่ ดังนั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นนี้ ศึกษาได้จากหัวข้อการปรากฏตัวของท่านหญิงลัยลามารดาของอะลีอักบัรในกัรบะลา, คำตอบลำดับที่ 11901 (ไซต์ : 11671)
3. ภรรยาท่านหนึ่งจากชนเผ่า เกาะฎออียะฮฺ
4. ท่านหญิงอุมมุอิสฮาก : บุตรีของฏ็อลฮะฮฺ บิน อุบัยดิลลาฮฺ : เธอมาจากเผ่าตัยยิม เธอเป็นมารดาของฟาฏิมะฮฺบุตรีของท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) ซึ่งมิได้อยู่ในเหตุการณ์กัรบะลาอฺ
5. ท่านหญิงรุบาบ : ตามคำกล่าวของนักประวัติศาสตร์ ท่านหญิงรุบาบ, บุตรีของอัมเราะอุลเกส บุตรของอะดีย์, เธอเป็นภรรยาท่านหนึ่งของท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) และเป็นมารดาของสุกัยนะฮฺ และอะลีอัซฆัร (อับดุลลอฮฺ) เธอได้ร่วมเดินทางไปกัรบะลาอฺ และถูกจับเป็นเชลยไปยังเมืองชาม, หลังจากนั้นถูกส่งตัวไปกลับไปยังมะดีนะฮฺ เธอได้จัดพิธีกรรมรำลึกถึงท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) เป็นเวลานานถึง 1 ปี เธอได้แต่งบทกวีเกี่ยวกับท่านอิมามฮุซัยนฺ มีผู้ร่ำรวยและเป็นผู้อาวุโสมีหน้าทีตาชาวกุเรชหลายคนได้สู่ขอเธอแต่งงาน แต่เธอปฏิเสธทั้งหมดโดยไม่พร้อมจะแต่งงานกับชายใดอีก เธอได้จัดพิธีกรรมรำลึกถึงท่านอิมาม (อ.) และร่ำไห้อยู่นาน เธอไม่เคยเข้าไปอยู่ในร่มเลย และเป็นเพราะความเสียใจและความทุกข์ทรมานใจที่ได้รับจากเหตุการณ์กัรบะลาอฺ และการเป็นชะฮีดของท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) หนึ่งปีหลังจากนั้น (ปีฮ.ศ. 62) เธอได้อำลาจากโลกไป[3]
ตัวอย่างบทกวีของท่านหญิงรุบาบ ที่กล่าวถึงท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) ซึ่งเธอได้เริ่มต้นเช่นนี้ว่า :
انّ الذى کانَ نورا یُستَضاءُ به فى کَربلاء قتیل غیرُ مَدفونِ
سِبطُ النبىّ جَزاکَ اللّه صالِحة عَنّا و جُنّبتَ خُسرانَ المَوازین...
“ผู้ซึ่งส่งประกายรัศมีอันเจิดจรัส ถูกสังหาร ณ แผ่นดินกัรบะลาอฺโดยมิได้ถูกฝังร่าง
โอ้ หลานรักของท่านศาสดา อัลลอฮฺทรงประสงค์จากเราให้ท่านเป็นรางวัลของความดี และให้ความเสียหายห่างไกลไปจากท่าน”[4]
สำหรับท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) ได้มีการกล่าวถึงภรรยาคนอื่นของท่านไว้ด้วย ซึ่งเธอกำลังตั้งครรภ์บุตรคนหนึ่งของท่านอิมาม (อ.) นามว่า “มุฮฺซิน” แต่นางได้แท้งบุตรเสียก่อนในบริเวณใกล้ๆ กับเมือง ฮะลับ ในสถานที่หนึ่งนามว่า เญาชัน ซึ่งเป็นบริเวณที่มีแร่ธาตุทองแดงมากเป็นพิเศษ, และอาจเป็นไปได้ว่าภรรยาคนนี้ของท่านอาจเป็นภรรยาคนหนึ่งซึ่งเราได้อธิบายไปแล้ว,ฮัมมะวีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ “อัลบุลดาล” ว่า : เญาชันคือ ภูเขาหนึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองฮะลับ, เมื่อเชลยแห่งอะฮฺลุลบัยตฺ (อ.) ได้ถูกต้อนผ่านบริเวณนั้น ภรรยาของท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) ซึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ ได้ขอน้ำและอาหารจากพวกเขา แต่พวกเขากล่าวคำพูดไม่ดีกับเธอ และขัดขวางไม่ให้น้ำและอาหารแก่เธอ, หลังจากนั้นภรรยาของพวกเขาได้สาปแช่งพวกเขา และแผ่นดินก็สูญสิ้นแร่ธาตุ, และสถานที่นั้นก็กลายมีชื่อเรียกว่า สถานที่แท้ง หรือ มัชฮะดุดดะกะฮฺ[5]
[1] เชคมุฟีด, มุฮัมมัด บุตรของมุฮัมมัด บุตรของนุอฺมาน, เอรชาด, เล่ม 2, หน้า 135, สัมมนาอัตรชิวประวัติเชคมุฟีด, กุม, ฮ.ศ. 1413
[2] รอวันดี, กุฎบุดดีน, อัลเคาะรอญิอฺ วัลบะรอญิฮฺ, เล่ม 2, หน้า 750, สถาบันอิมามมะฮฺดียฺ (อ.), กุม, ปีฮ.ศ. 1409
[3] อิบนุ อะซีร, อิซซุดดีน, อัลกามิล, เล่ม 4, หน้า 88, ดารุลซอดิร, เบรูต, ปีฮ.ศ. 1385.
[4] ซัยยิด มุฮฺซิน อะมีน, เล่ม 6, หน้า 449, ดารุลตะอารีฟ, เบรูต, ปีฮ.ศ. 1406.
[5] ฮะมะวีย, ยากูต, มุอฺญิมบุลดาล, เล่ม 2, หน้า 186, ดารุลซอดิร, เบรูต, ฮ.ศ. 1995.