Please Wait
7268
การสาบาน มิใช่หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ศีลอดเสีย แต่ถ้าได้สาบานโดยพาดพิงสิ่งโกหกไปยังอัลลอฮฺ (ซบ.) ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) และตัวแทนของท่านโดยตั้งใจ ซึ่งสาเหตุนี้เองที่กล่าวว่า เป็นการโกหกที่พาดพิงไปยังอัลลอฮฺ ศาสดา (ซ็อลฯ) และตัวแทนของท่าน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ศีลอดเสีย
ส่วนคำสาบานต่างๆ ที่อยู่ในบทดุอาอฺไม่ถือว่าโกหก ทว่าเป็นการเน้นย้ำและอ้อนวอนให้ตอบรับดุอาอฺที่ขอต่ออัลลอฮฺ ซึ่งไม่ได้เป็นสาเหตุทำให้ศีลอดเสียแต่อย่างใด
เพื่อรู้จักสิ่งที่เป็นสาเหตุทำให้ศีลอดเสียมากขึ้น ขอกล่าวอธิบายดังนี้ :
ในหนังสือเตาฎีฮุลมะซาอิลกล่าวไว้ดังนี้ว่า : “มีอยู่ 9 สิ่งเป็นสาเหตุทำให้ศีลอดเสีย : หนึ่ง : การกินและดื่ม, สอง : การมีเพศสัมพันธ์, สาม : อิสติมนาอฺ, หมายถึงการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง หรือการกระทำใดๆ อันเป็นเหตุให้อสุจิเคลื่อนออกมา, สี่ : โกหกโดยพาดพิงไปถึงอัลลอฮฺ เราะซูล (ซ็อลฯ) และตัวแทนของท่าน, ห้า : การปล่อยให้ฝุ่นละอองหนาทึบลงไปถึงลำคอ, หก : การดำน้ำโดยศีรษะทั้งหมดอยู่ใต้น้ำ, เจ็ด : การคงสภาพการมียินาบัต ระดู และโลหิตหลังการคลอดบุตรจนถึงอะซานซุบฮฺ, แปด : การสวนทวารด้วยของเหลว, เก้า : การอาเจียน,[1] เกี่ยวกับประเด็นที่ 4 บางท่านอธิบายว่า : “ถ้าผู้ถือศีลอดได้พูด หรือเขียน หรือแสดงสัญลักษณ์ หรือสิ่งที่คล้ายคลึงกันพาดพิงถึงอัลลอฮฺ เราะซูล (ซ็อลฯ) และ ตัวแทนของท่านโดยตั้งใจโกหก แม้ว่าจะรีบพูดว่า ฉันพูดโกหก หรือรีบเตาบะฮฺก็ตาม, ถือว่าศีลอดบาฏิล และเป็นอิฮฺติยาฏวาญิบตลอดจนท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ (อ.) บรรดาศาสดาท่านอื่นและบรรดาตัวแทนของท่านเหล่านั้น ถือว่าอยู่ในกฎเดียวกันโดยไม่มีความแตกต่างๆ[2]
ด้วยเหตุนี้เอง การสาบานมิได้เป็นสาเหตุทำให้ศีลอดเสียแต่อย่างใด การสาบาน มิใช่หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ศีลอดเสีย แต่ถ้าได้สาบานโดยพาดพิงสิ่งโกหกไปยังอัลลอฮฺ (ซบ.) ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) และตัวแทนของท่านโดยตั้งใจ ซึ่งสาเหตุนี้เองที่กล่าวว่า เป็นการโกหกที่พาดพิงไปยังอัลลอฮฺ ศาสดา (ซ็อลฯ) และตัวแทนของท่าน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ศีลอดเสีย
ส่วนการสาบานอื่นๆ ที่ปรากฏอยู่ในดุอาอฺต่างๆ มิใช่เป็นคำสาบานโกหก หรือเป็นสาเหตุทำให้ศีลอดเสีย ทว่าเป็นการเน้นย้ำหรืออ้อนวอนให้อัลลอฮฺ ทรงตอบรับดุอาอฺนั้น และยังเป็นการอ้อนวอนต่ออัลลอฮฺ โดยขอผ่านยังสิทธิของหมู่มิตรของพระองค์ และหมู่มิตรผู้ใกล้ชิด โดยขอสาบานให้พระองค์ทรงตอบรับดุอาอฺของเราด้วยเถิด
[1] เตาฎีฮุลมะซาอิล (อัลมะฮฺชี ลิลอิมามโคมัยนี) เล่ม 1, หน้า: 891.
[2] เตาฎีฮุลมะซาอิล (อัลมะฮฺชี ลิลอิมามโคมัยนี) เล่ม 1, หน้า: 900 ข้อที่ 1596.