การค้นหาขั้นสูง
ผู้เยี่ยมชม
9011
อัปเดตเกี่ยวกับ: 2554/12/21
 
รหัสในเว็บไซต์ fa11567 รหัสสำเนา 19928
หมวดหมู่ تاريخ بزرگان
คำถามอย่างย่อ
มุคตารคือ ษะกะฟีย์ ซึ่งในหัวใจมีความรักให้ท่านอบูบักร์และอุมมัรเท่านั้น? แล้วทำไมเขาจึงไม่ปกป้องท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) ในกัรบะลาอฺ?
คำถาม
ถูกต้องหรือไม่ทีว่ามุคตารเป็นษะกะฟีย์ มีความรักให้ท่นอบูกบักร์และอุมัรเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เองจึงตกจากสะพานซิรอต, และท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) ได้ช่วยเหลือไว้? ในช่วงเวลาการยืนหยัดของท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) เขาอยู่ที่ไหนจึงไม่ได้ปกป้องท่านอิมาม?
คำตอบโดยสังเขป

รายงานเกี่ยวกับมุคตารที่ปรากฏอยู่ในตำราฮะดีซนั้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กล่าวคือรายงานบางกลุ่มกล่าวสรรเสริญเขา และบางกลุ่มก็กล่าวประณามเขา นักวิชาการฝ่ายฮะดีซและริญาลเมื่อกล่าวถึง มุคตาร ส่วนใหญ่จะเลือกฮะดีซที่กล่าวสรรเสริญมากกว่า ส่วนรายงานตรงกันข้ามนั้นจะไม่ค่อยมีใครกล่าวถึงมากเท่าใดนัก

อัลลามะฮฺมัจญฺลิซซียฺ ได้นำเอารายงาน (การช่วยเหลือมุคตาร) มารวมเข้ากับรายงานที่กล่าวประณาม ซึ่งในแง่ของความเชื่อศรัทธาเบื้องต้นเขาเป็นชาวนรก แต่ในบั้นปลายเมื่อได้รับความช่วยเหลือจากท่านอิมามฮุซัยนฺ (.) เขาจึงรอดพ้นจากการลงโทษของพระเจ้า, ส่วนท่านอายะตุลลอฮฺ คูอียฺ กล่าวว่า สายรายงานของฮะดีซบทนี้อ่อนแอ

มุคตาร ษะกะฟียฺ, ก่อนขบวนการอาชูรอและการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามฮุซัยนฺ (.) ในกัรบะลา, เขาได้ให้การสนับสนุนมุสลิม บิน อะกีล ผู้เป็นทูตของท่านอิมามฮุซัยนฺ (.) ในกูฟะฮฺ, มุคตารถูกจำคุกอยู่โดยคำสั่งของ อิบนุซิยาด จนกระทั่งการยืนหยัดต่อสู้ในกัรบะลาอฺได้สิ้นสุดลง

คำตอบเชิงรายละเอียด

มุคตาร บิน อบี อุบัยดะฮฺ มาจากเผ่าษะกีฟ, มีฉายนามว่า อบูอิสฮาก, และมีสมญานามว่า กีซาน, คำว่ากีซานหมายถึง ความฉลาด ความหลักแหลม.[1] ตามรายงานที่กล่าวไว้, อัศบัฆ บิน นะบาตะฮฺ, สหายคนหนึ่งของท่านอิมามอะลี (.) กล่าวว่า : [2]ฉายานามว่า กีส ท่านอิมามอะลี (.) ได้ตั้งให้แก่มุคตาร

มุคตารได้เรียนรู้มารยาทและความประเสริฐด้านศีลธรรมจาก สำนักคิดอะฮฺลุลบัยตฺของท่านศาสดา (ซ็อล ) เมื่อย่างเข้าวัยหนุ่ม, เขาได้มีโอกาสร่วมเดินทางไปกับบิดาและอาของเขาไปยังอีรัก เพื่อเข้าร่วมสงครามสู้รบกับกองทัพอิหร่าน มุคตารได้อยู่เคียงข้างท่านอิมามอะลี (.) และหลังจากท่านอิมามได้ชะฮาดัต, เขาได้เดินทางบัศเราะฮฺและอาศัยอยู่ที่นั่น[3]

อัลลามะฮฺ มัจญฺลิซซียฺ (ขออัลลอฮฺทรงเมตตา) บันทึกว่า : มุคตารได้อธิบายความประเสริฐของอะฮฺลุลบัยตฺของท่านศาสดา (ซ็อล ) นอกจากนั้นเขายังสาธยาย และเผยแพร่คุณลักษณะอันงดงามของท่านอมีรุลมุอฺมีน ท่านอิมามฮะซัน และท่านอิมามฮุซัยนฺ (.) แก่ประชาชน เขามีความเชื่อเสมอว่าครอบครัวของท่านศาสดา (ซ็อล ) มีความเหมาะสมกับตำแหน่งการเป็นผู้นำ และผู้ปกครองภายหลังจากท่านศาสดา ยิ่งกว่าผู้ใดทั้งหมด เขาแสดงความเสียใจและโมโหโกรธาตลอดเวลา เมื่อเห็นความยากลำบากและความทุกข์ยากต่างๆ ได้กร่ำกรายมาสู่ครอบครัวของท่านศาสดา[4]

บุคลิกภาพของมุคตารในริวายะฮฺ

รายงานที่กล่าวถึงมุคตาร ซึ่งมีบันทึกอยู่ในตำราฮะดีซแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กล่าวคือ กลุ่มหนึ่งกล่าวสรรเสริญมุคตาร ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งกล่าวประณาม

) ฮะดีซที่กล่าวสรรเสริญมุคตาร

ตำราฮะดีซได้บันทึกฮะดีซ ที่กล่าวสรรเสริญมุคตารไว้นั้นมีจำนวนมากมาย, แต่เพื่อความเหมาะสมในที่นี้จะขอนำเสนอเป็นตัวอย่างสัก 3 ฮะดีซ ประกอบด้วย

1.ท่านอิมามซอดิก (.) กล่าวว่า : เหล่าสตรีของบนีฮาชิมไม่เคยหวีผม และแต่งหน้าจนกระทั่งมุคตาร ได้ส่งศีรษะเหล่าทรชนที่ร่วมกันสังหารท่านอิมามฮุซัยนฺ (.) มายังครอบครัวของเรา[5] ซัยยิดคูอียฺ (ขออัลลอฮฺทรงเมตตา) ยอมรับว่าฮะดีซบทนี้ถูกต้องเชื่อถือได้[6] รายงานบทสนับสนุนให้เห็นถึงการกระทำดีของมุคตาร

2.จงอย่ากล่าวสิ่งไม่ดีกับมุคตาร, เนื่องจากเขาได้สังหารหมู่ชนที่สังหารพวกเรา และเขาได้ลงโทษอาชญากรเหล่านั้น,เมื่อยามประสบความทุกข์ยากเขาได้แบ่งทรัพย์สินแก่พวกเรา ช่วยดูแลเหล่าสตรีที่เป็นหม้ายของเรา[7]

3.บางรายงานได้กล่าวว่า ท่านอิมามซัจญาด (.) เมื่อได้เห็นศีรษะของอุบัยดิลลาฮฺ บิน ซิยาด และอุมะริบ สะอัด ถูกส่งมาให้ท่าน, ท่านได้ลงซัจญฺดะฮฺและกล่าวสรรเสริญอัลลอฮฺ พร้อมกับกล่าวว่า : "جَزىَ اللهُ المُختارَ خَیرا ขออัลลอฮฺ โปรดประทานรางวัลความดีงามแก่มุคตาร[8]

) รายงานที่กล่าวประณามมุคตาร

ในที่นี้จะขอกล่าวถึงฮะดีซสัก 3 ฮะดีซเพื่อเป็นตัวอย่าง

1. ท่านอิมามซอดิก (.) กล่าวว่า :มุคตารได้กล่าวมุสาพาดพิงถึงท่านอิมามซัจญาด (.)”[9]

2.มีรายงานกล่าวว่า มุคตารได้ส่งเงินให้ท่านอิมามซัจญาด (.) จำนวน 20,000 ดีนาร, ท่านอิมามได้รับเงินนั้นไว้เพื่อซ่อมแซมรอยผุพังของบ้านท่าน, หลังจากนั้นมุคตารได้ส่งเงินให้ท่านอิมามอีกเป็นจำนวนเงินถึง 40,000 ดีนาร ซึ่งท่านอิมามก็ได้รับเงินนั้นไว้อีก[10] อีกรายงานหนึ่งกล่าวว่า "فَإِنِّی لَا أَقْبَلُ هَدَایا الْکَذَّابِین‏" ดังนั้น ฉันจะไม่ยอมรับของกำนัลที่มุสาหลอกลวง[11]

3.คำใส่ร้ายอีกประการหนึ่งท่มีต่อมุคตาร คือ เขาชื่อการเป็นอิมามะฮฺของมุฮัมม ฮะนะฟียะฮฺ และได้เชิญชวนประชาชนไปสู่เขา ด้วยเหตุนี้เอง สำนักคิด กีซานียะฮฺ จึงได้เกิดขึ้นมา[12]

มุคตารในทัศนะของนักปราชญ์

นักวิชาการและนักปราชญ์สายฮะดีซและอิลมริญาล ส่วนใหญ่จะเลือกฮะดีซที่กล่าวสรรเสริญและชื่นชมมุคตาร ซึ่งจะไม่มีผู้ใดเลือกรายงานที่ตรงกันข้ามมาอรรถาธิบาย

) รายงานที่กล่าวประณามมคตาร, ถ้าหากพิจารณาจากสายรายงานแล้วถือว่า อ่อนแอมาก[13] กะชี กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า : ฉันคิดว่าฮะดีซเหล่านี้เป็นฮะดีซอุปโลกน์ทั้งสิ้นที่มาจากฝ่ายซุนนียฺ[14]

) อาจเป็นไปได้ว่าฮะดีซเหล่านี้ อาจเกิดจากการตะกียะฮฺ และเพื่อความปลอดภัยของท่านอิมามและบนีฮาชิม จากน้ำมือของผู้ปกครองที่กดขี่ จึงได้ออกมาจากเขา[15]

) ฮะดีซกล่าวว่ามุคตารได้ส่งของกำนัลให้ท่านอิมามซัจญาด (.) และครอบครัว ถึงสองครั้ง ซึ่งครั้งที่สองท่านอิมามไม่ยอมรับ เนื่องจากเป็นของกำนัลที่ผูกพันอยู่บนความมุสาของมุคตาร สิ่งนี้ห่างไกลจากความจริง, เนื่องจากถ้าหากท่านอิมามไม่ยอมรับของขวัญเพราะการมุสาของมุคตารแล้วละก็ สาเหตุนี้ก็มีอยู่ในการมอบของขวัญครั้งแรกเหมือนกัน[16]

) รายงานต่างๆ ที่พาดพิง สำนักคิดกีซานียะฮฺ ว่ามีความผูกพันกับมุคตาร ประหนึ่งว่าเป็นการพูดโกหกใส่มุคตาร, และตามความเชื่อของนักปราชญ์ฝ่ายอิลมุริญาล กล่าวว่า สิ่งนี้เป็นเรื่องโกหกจากฝ่ายซุนนีย์ที่มีต่อมุคตาร, เนื่องจากมุฮัมมัด บิน ฮะนะฟียะฮฺ ไม่เคยกล่าวอ้างการเป็นอิมามะฮฺเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพื่อว่ามุคตารจะได้เชิญชวนไปสู่เขา, ทว่าสำนักคิด กีซานียะฮฺ ได้ถูกจัดตั้งขึ้นภายหลังจากมุฮัมมัด ฮะนะฟียะฮฺ ได้เสียชีวิตไปแล้ว[17]

ความเชื้อของมุคตาร

นักวิชาการบางคน,ไม่เชื่อว่ามุคตารมีความเชื่อหรือความศรัทธาที่ดีและถูกต้อง ซึ่งประเด็นนี้มี 2 รายงานกล่าวพาดพิงไว้ กล่าวคือ :

1. عَنْ أَبِی عَبْدِ اللَّهِ (ع) قَالَ لِی: "یجُوزُ النَّبِی(ص) الصِّرَاطَ یتْلُوهُ عَلِی وَ یتْلُو عَلِیاً الْحَسَنُ وَ یتْلُو الْحَسَنَ الْحُسَینُ فَإِذَا تَوَسَّطُوهُ نَادَى الْمُخْتَارُ الْحُسَینَ(ع) :یا أَبَا عَبْدِ اللَّهِ(ع) إِنِّی طَلَبْتُ بِثَارِکَ فَیقُولُ النَّبِی(ص) لِلْحُسَینِ(ع) :أَجِبْهُ؛ فَینْقَضُّ الْحُسَینُ(ع) فِی النَّارِ کَأَنَّهُ عُقَابٌ کَاسِرٌ فَیخْرِجُ الْمُخْتَارَ حُمَمَةً وَ لَوْ شُقَّ عَنْ قَلْبِهِ لَوُجِدَ حُبُّهُمَا فِی قَلْبِهِ"؛

1.ท่านอิมามซอดิก (.) กล่าวว่า : ท่านศาสดา (ซ็อล ) ได้เดินผ่านสะพานซิรอตไปแล้ว ขณะนั้นมีท่านอิมามอะลี (.) และมีท่านอิมามฮะซัน (.) เดินตามหลัง หลังจากนั้นเป็นท่านอิมามฮุซัยนฺ (.) เมื่อเดินไปถึงกลางสะพาน มุคตาร (ซึ่งถูกลงโทษในนรก) ได้ส่งเสียงเรียกวา : โอ้ ยาอะบาอับดิลลาฮฺ ฉันคือผู้ทวงหนี้เลือดให้แก่ท่าน, ท่านศาสดา (ซ็อล ) กล่าวว่า : โอ้ ฮุซัยนฺ จงตอบเขาไปซิ, หลังจากนั้นท่านอิมามฮุซัยนฺ (.) ได้โฉบเฉี่ยวมุคตารให้พ้นจากนรกเหมือนพญาอินทรีย์ แต่กระนั้น ถ้าหากหัวใจของมุคตารแตกสลายออกมา, ความรักที่เขามีต่อเคาะลิฟะฮฺทั้งสองก็จะเปิดเผยออกมาทันที[18]

2.

แปลคำถามภาษาต่างๆ
ความเห็น
จำนวนความเห็น 0
กรุณาป้อนค่า
ตัวอย่าง : Yourname@YourDomane.ext
กรุณาป้อนค่า
<< ลากฉัน
กรุณากรอกจำนวนที่ถูกต้องของ รหัสรักษาความปลอดภัย

หมวดหมู่

คำถามสุ่ม

  • นามอันเป็นมักนูนและมุสตะอ์ษิ้รของอัลลอฮ์หมายความว่าอย่างไร?
    6982 รหัสยทฤษฎี 2554/10/23
    จากฮะดีษและบทดุอาทำให้ทราบว่าอัลลอฮ์มีพระนามที่ทรงคัดสรรด้วยพระองค์เองโดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้พระนามเหล่านี้เรียกว่า"อัสมาอ์มุสตะอ์ษิเราะฮ์" ซึ่งตามคำบอกเล่าของฮะดีษพระนามเหล่านี้คือมิติเร้นลับของอิสมุลอะอ์ซ็อมอันเป็นพระนามแรกของพระองค์พระนามประเภทนี้ยังเรียกขานกันว่าอิสมุ้ลมักนูนหรืออิสมุ้ลมัคซูนอีกด้วย ...
  • เหตุใดอัลลอฮ์จึงทรงสร้างภูตผีปีศาจ ขณะเดียวกันก็ทรงตรัสว่าภูตผีเหล่านี้จะทำอันตรายได้ก็ต่อเมื่อทรงอนุมัติเท่านั้น?
    9354 เทววิทยาดั้งเดิม 2555/04/11
    ญิน คือสิ่งมีชีวิตที่กุรอานกล่าวว่า “และเราได้สร้างญินจากไฟอันร้อนระอุก่อนการสรรสร้าง(อาดัม)” ญินจึงถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์ซึ่งต้องได้รับการชี้นำโดยบรรดาศาสดาเช่นกัน อีกทั้งมีหน้าที่ต้องบูชาพระองค์เสมือนมนุษย์ ญินจำแนกออกเป็นกลุ่มกาฟิรและกลุ่มมุสลิมตามระดับการเชื่อฟังพระบัญชาของอัลลอฮ์ ซึ่งอิบลีสที่ไม่ยอมศิโรราบแก่นบีอาดัมในยุคแรกก็เป็นญินตนหนึ่ง การทำอันตรายโดยการอนุมัติของพระองค์ในที่นี้ หมายถึงข้อเท็จจริงที่ว่าทุกๆพลังอำนาจที่มีอยู่ในโลกล้วนมาจากพระองค์ทั้งสิ้น แม้แต่อานุภาพความร้อนและคมมีดก็ไม่อาจทำอะไรได้หากพระองค์มิทรงยินยอม เป็นความคิดที่ผิดมหันต์หากจะเชื่อว่าจอมขมังเวทย์ทั้งหลายสามารถจะคานอำนาจของพระองค์ เนื่องจากไม่มีสิ่งใดจะสามารถกำหนดขอบเขตอำนาจของพระองค์ได้ กฏเกณฑ์เหล่านี้ล้วนเป็นคุณสมบัติและผลลัพท์ที่ทรงกำหนดแก่ทุกสรรพสิ่ง โดยมนุษย์บางคนใช้ประโยชน์ในทางที่ดี แต่ก็มีบางคนใช้ประโยชน์ในทางเสื่อมเสีย ...
  • บุตรีของมุสลิม บิน อะกีลมีชื่อว่าอะไร?
    7711 تاريخ کلام 2554/06/22
    หลังจากได้ศึกษาหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับชีวประวัติของท่านมุสลิมบินอะกีลเข้าใจได้ว่าท่านมุสลิมมีบุตรี 2 คนนามว่าอาติกะฮฺและฮะมีดะฮฺซึ่งอาติกะฮฺอยู่ในเหตุการณ์กัรบะลาอฺด้วยและเธอได้ชะฮีดในวันอาชูรอขณะศัตรูได้บุกโจมตีเต็นท์ต่างๆส่วนฮะมีดะฮฺได้ถูกจับตัวเป็นเชลยพร้อมกับเชลยแห่งกัรบะลาอฺซึ่งตระกูลของมุสลิมได้สืบเชื้อสายมาจากนาง ...
  • คำพูดทั้งหมดของพระศาสดา (ซ็อล ฯ) ถือว่าเป็นวะฮฺยูหรือไม่?
    7820 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/06/21
    มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ,ในประเด็นที่กำลังกล่าวถึงแตกต่างกันบางคนได้พิจารณาการตีความของโองการที่ 3,4 ของอัลกุรอานบทนัจมฺ[i]ซึ่งเชื่อว่าคำพูดทั้งหมดของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ตลอดจนการกระทำต่างๆของท่านมาจากวะฮฺยูทั้งสิ้นบางคนเชื่อว่าโองการที่ 4 ของบทอันนัจมฺนั้นกล่าวถึงอัลกุรอานกะรีมและบรรดาโองการต่างๆที่ประทานให้แก่ท่านศาสดา,แม้ว่าซุนนะฮฺ (แบบฉบับ) ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) จะเป็นข้อพิสูจน์และเป็นเหตุผลก็ตามซึ่งคำพูดการกระทำและการนิ่งเฉยของท่านมิได้เกิดจากอารมณ์อย่างแน่นอนสิ่งที่เข้าใจได้จากสิ่งที่กล่าวถึงในตรงนี้คือสามารถกล่าวได้อย่างมั่นใจว่าทั้งความประพฤติและแบบอย่างของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) มิได้กระทำลงไปโดยปราศจากวะฮียฺอย่างแน่นอนดังเช่นคำพูดของท่านก็เป็นเช่นนี้ด้วยแม้ว่าจะเป็นคำพูดประจำวันคำพูดสามัญทั่วไปตลอดการดำรงชีวิตของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ก็ตามสิ่งนั้นก็จะไม่เกิดจากอารมณ์อย่างเด็ดขาดซึ่งตามความเป็นจริงแล้วเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้แน่นอนว่าท่านศาสดา (ซ็อลฯ) จะล่วงละเมิดกระทำความผิด[i]
  • กรุณานำเสนอบทดุอาเพื่อให้ได้พบคู่ครองที่เหมาะสมและเปี่ยมด้วยตักวา
    42465 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/06/12
    ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีปัจจัยและเงื่อนไขจำเพาะตามที่พระเจ้าทรงกำหนดหากเราประสงค์สิ่งใดย่อมต้องเริ่มจากการตระเตรียมปัจจัยและเงื่อนไขเสียก่อนปัจจัยของการแต่งงานคือการเสาะหาและศึกษาอย่างละเอียดทว่าเพื่อความสัมฤทธิ์ผลในการดังกล่าวจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮ์เพื่อทรงชี้นำการตัดสินใจและความพยายามของเราให้บรรลุดังใจหมาย.การอ่านบทดุอาต่างๆที่รายงานจากบรรดาอิมาม(อ)ต้องควบคู่กับความพยายามศึกษาและเสาะหาคู่ครองอย่างถี่ถ้วน. หนึ่งในดุอาที่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะก็คือรายงานที่ตกทอดมาจากท่านอลี(อ)ดังต่อไปนี้: “ผู้ใดประสงค์จะมีคู่ครอง
  • สายรายงานของฮะดีษที่ท่านอิมามอลี(อ.)กล่าวแก่ชาวอรับเกี่ยวกับชาวเปอร์เซียว่า“พวกท่าน(อรับ)รบกับพวกเขา(เปอร์เซีย)เพื่อให้ยอมรับการประทานกุรอาน แต่ก่อนโลกนี้จะพินาศ พวกเขาจะรบกับพวกท่านเพื่อการตีความกุรอาน”เชื่อถือได้เพียงใด?
    7962 ดิรอยะตุลฮะดีซ 2554/09/11
    ในตำราฮะดีษมีฮะดีษชุดหนึ่งที่มีนัยยะถึงการที่ท่านอิมามอลี(อ.)กล่าวกับชาวอรับเกี่ยวกับชาวเปอร์เซียว่า “พวกท่าน(อรับ)รบกับพวกเขา(เปอร์เซีย)เนื่องด้วยการประทานกุรอานแต่ก่อนโลกนี้จะพินาศพวกเขาก็จะรบกับพวกท่านเนื่องด้วยการตีความกุรอาน”สายรายงานของฮะดีษบทนี้เชื่อถือได้ ...
  • ความสัมพันธ์ระหว่างพระประสงค์ของพระเจ้ากับความต้องการของมนุษย์เป็นอย่างไร
    6894 เทววิทยาดั้งเดิม 2553/12/22
    มนุษย์คือการมีอยู่อยู่ประเภทที่เป็นไปได้หมายถึงแก่นแท้แห่งการมีอยู่ของมนุษย์นั้นมาจากพระเจ้าพระเจ้าทรงรังสรรค์มนุษย์ขึ้นมาด้วยเจตนารมณ์เสรีและพระประสงค์ของพระองค์และด้วยความพิเศษนี้เองพระองค์ได้ทำให้เขามีความสูงส่งกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆด้วยเหตุนี้มนุษย์คือสรรพสิ่งมีอยู่ที่ดีที่สุดพระองค์ทรงวางกฎหมายและมอบให้มนุษย์เป็นผู้ที่พระองค์กล่าวถึงอีกทั้งทรงอนุญาตให้มนุษย์สามารถตัดสินใจได้เองว่าจะเชื่อฟังปฏิบัติตามหรือจะปฏิเสธอนุญาตให้มนุษย์เลือกและจัดการกับชะตากรรมของพวกเขาเองและนี่คือมนุษย์เขาสามารถเลือกในสิ่งดีงาม
  • การถูกสาปเป็นลิงคือโทษของผู้ที่จับปลาในวันเสาร์เพราะมีความจำเป็นหรืออย่างไร?
    13730 การตีความ (ตัฟซีร) 2555/04/09
    ในเบื้องแรกควรทราบว่าการหาปลาประทังชีวิตมิไช่เหตุที่ทำให้บนีอิสรออีลส่วนหนึ่งถูกสาป เพราะการหาเลี้ยงชีพนอกจากจะไม่เป็นที่ต้องห้ามแล้ว ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของอิบาดะฮ์ในทัศนะอิสลามอีกด้วย ท่านอิมามศอดิก(อ.)กล่าวว่า “ผู้ที่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวเสมือนนักต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์” ฉะนั้น เหตุที่ทำให้พวกเขาถูกสาปจึงไม่ไช่แค่การจับปลา และนั่นก็คือสิ่งที่อัลลอฮ์กล่าวไว้ว่า “และเช่นนี้แหล่ะที่เราได้ทดสอบพวกเขาในสิ่งที่พวกเขาฝ่าฝืน” สิ่งที่ช่วยยืนยันเหตุผลดังกล่าวก็คือ มีสำนวน اعتدوا และ یعدون (ละเมิด) ปรากฏในโองการที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ อันแสดงว่าพวกเขาถูกลงโทษเนื่องจากทำบาปและฝ่าฝืนพระบัญชาของพระองค์ ทำให้ไม่ผ่านบททดสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ การพักงานในวันเสาร์ถือเป็นหลักปฏิบัติถาวรของชนชาติยิวจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งก็มิได้เป็นการชี้โพรงให้นอนเอกเขนกด้วยความเกียจคร้านแต่อย่างใด แต่เนื่องจากโดยปกติแล้ว คนเราจะทำงานอย่างเต็มที่ตลอดสัปดาห์โดยไม่ไคร่จะสนใจอิบาดะฮ์ ความสะอาด ครอบครัว ฯลฯ เท่าที่ควร จึงสมควรจะสะสางหน้าที่เหล่านี้ในวันหยุดสักหนึ่งวันต่อสัปดาห์ การได้อยู่กับครอบครัวก็มีส่วนทำให้เกิดพลังงานด้านบวกที่จะกระตุ้นให้เริ่มงานในวันแรกของสัปดาห์อย่างมีประสิทธิภาพ ฉะนั้น การไม่ทำงาน (ที่เป็นทางการ) ในวันหยุด มิได้แสดงถึงความเกียจคร้านเสมอไป ...
  • มีฟัตวาเกี่ยวกับอาชีพที่สองไหม? หรือว่าการมีอาชีพที่สองเท่ากับเป็นคนหลงโลก?
    7657 สิทธิและกฎหมาย 2555/01/23
    ในทัศนะอิสลามไม่มีความหมายอันใดเกี่ยวกับอาชีพหรืออาชีพที่สอง, สิ่งที่ศาสนาอิสลามหรืออัลลอฮฺ (ซบ.) ได้ประณามเอาไว้คือ, ความลุ่มหลงและจิตผูกพันอยู่กับโลกทำให้ห่างไกลจากศีลธรรมและปรโลก
  • การลงจากสวรรค์ของอาดัมหมายถึงอะไร?
    9318 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/10/22
    คำว่า “ฮุบูต” หมายถึงการลงมาด้านล่างจากที่สูง (นุซูล) ตรงกันข้ามกับคำว่า สุอูด (ขึ้นด้านบน), บางครั้งก็ใช้ในความหมายว่าหมายถึงการปรากฏในที่หนึ่งการวิพากถึงการลงมาของศาสดาอาดัม และความหมายของการลงมานั้น อันดับแรกขึ้นอยู่กับว่า สวรรค์ที่ศาสดาอาดัมอยู่ในตอนนั้นเราจะตีความกันว่าอย่างไร? สวรรค์นั้นเป็นสวรรค์บนโลกหรือว่าสวรรค์ในปรโลก? สิ่งที่แน่ชัดคือมิใช่สวรรค์อมตะนิรันดร์, ดังนั้นการลงมาของศาสดาอาดัม, จึงเป็นการลงมาในฐานะของฐานันดร, กล่าวคือวัตถุประสงค์ของอาดัมที่ลงจากสวรรค์, หมายถึงการขับออกจากสวรรค์ การกีดกันจากการใช้ชีวิตในสวรรค์ (สวรรค์บนพื้นโลก) การใช้ชีวิตบนพื้นโลก การดำเนินชีวิตไปพร้อมกับการเผชิญกับความยากลำบาก ดังที่อัลกุรอานหลายโองการได้กล่าวถึงไว้ ...

เนื้อหาที่มีผู้อ่านมากที่สุด

  • อะไรคือหน้าที่ๆภรรยาพึงปฏิบัติต่อสามีบ้าง?
    60367 สิทธิและกฎหมาย 2554/07/07
    ความมั่นคงของชีวิตคู่ขึ้นอยู่กับความรักความผูกพัน ความเข้าใจ การให้เกียรติและเคารพสิทธิของกันและกัน และเพื่อที่สถาบันครอบครัวจะยังคงมั่นคงเป็นปึกแผ่น อิสลามจึงได้ระบุถึงสิทธิของทั้งภรรยาและสามี ขณะเดียวกันก็ได้กำหนดหน้าที่สำหรับทั้งสองฝ่ายไว้ด้วย เนื่องจากเมื่ออัลลอฮ์ประทานสิทธิ ก็มักจะกำหนดหน้าที่กำกับไว้ด้วยเสมอ ข้อเขียนนี้จะนำเสนอหน้าที่ทางศาสนาบางส่วนที่ภรรยาพึงปฏิบัติต่อสามีดังต่อไปนี้:1. ...
  • ดุอาใดบ้างที่ทำให้ได้รับพรเร็วที่สุด?
    57921 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/07/03
    มีดุอาที่รายงานจากอิมาม(อ.)หลายบทที่กล่าวขานกันว่าเห็นผลตอบรับอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาดุอาทั้งหมด ณ ที่นี้ได้ จึงขอกล่าวเพียงชื่อดุอาที่มีความสำคัญเป็นพิเศษดังต่อไปนี้1. ดุอาตะวัซซุ้ล2. ดุอาฟะร็อจ
  • กรุณานำเสนอบทดุอาเพื่อให้ได้พบคู่ครองที่เหมาะสมและเปี่ยมด้วยตักวา
    42465 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/06/12
    ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีปัจจัยและเงื่อนไขจำเพาะตามที่พระเจ้าทรงกำหนดหากเราประสงค์สิ่งใดย่อมต้องเริ่มจากการตระเตรียมปัจจัยและเงื่อนไขเสียก่อนปัจจัยของการแต่งงานคือการเสาะหาและศึกษาอย่างละเอียดทว่าเพื่อความสัมฤทธิ์ผลในการดังกล่าวจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮ์เพื่อทรงชี้นำการตัดสินใจและความพยายามของเราให้บรรลุดังใจหมาย.การอ่านบทดุอาต่างๆที่รายงานจากบรรดาอิมาม(อ)ต้องควบคู่กับความพยายามศึกษาและเสาะหาคู่ครองอย่างถี่ถ้วน. หนึ่งในดุอาที่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะก็คือรายงานที่ตกทอดมาจากท่านอลี(อ)ดังต่อไปนี้: “ผู้ใดประสงค์จะมีคู่ครอง
  • ด้วยเหตุผลอันใดที่ต้องกล่าว อะอูซุบิลลาฮิ มินัชชัยฏอน นิรเราะญีม ก่อน บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม?
    39742 วิทยาการกุรอาน 2555/08/22
    หนึ่งในมารยาทของการอ่านอัลกุรอาน ซึ่งมีกล่าวไว้ในอัลกุรอาน และรายงานฮะดีซคือ การกล่าว อะอูซุบิลลาฮิ มินัชชัยฏอน นิรเราะญีม ก่อนที่จะเริ่มอ่านอัลกุรอาน หรือแม้แต่ให้กล่าวก่อนที่จะกล่าว บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม เสียด้วยซ้ำไป ด้วยเหตุผลที่ว่า บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม นั้นเป็นส่วนหนึ่งของอัลกุรอาน อย่างไรก็ตามการขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ มิใช่แค่เป็นเพียงคำพูดเท่านั้น ทว่าสิ่งนี้จะต้องฝังลึกอยู่ภายในจิตวิญญาณของเรา ซึ่งต้องสำนึกสิ่งนี้อยู่เสมอตลอดการอ่านอัลกุรอาน ...
  • ครูบาอาจารย์และลูกศิษย์(นักเรียนนักศึกษา)มีหน้าที่ต่อกันอย่างไร?
    39121 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/11/14
    ผู้สอนและผู้เรียนมีหน้าที่ต่อกันหลายประการด้วยกันซึ่งสามารถจำแนกออกเป็นสองส่วนก. หน้าที่ที่ผู้สอนมีต่อผู้เรียนอันประกอบด้วยหน้าที่ทางจริยธรรมการอบรมและวิชาการ ข. หน้าที่ที่ผู้เรียนมีต่อผู้สอนอาทิเช่นการให้เกียรติครูบาอาจารย์ยกย่องวิทยฐานะของท่านนอบน้อมถ่อมตน ...ฯลฯ ...
  • ก่อนการสร้างนบีอาดัม(อ) เคยมีการแต่งตั้งญินให้เป็นศาสนทูตสำหรับฝ่ายญินหรือไม่?
    34225 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/06/12
    อัลกุรอานยืนยันการมีอยู่ของเหล่าญินรวมทั้งได้อธิบายคุณลักษณะบางประการไว้ถึงแม้ว่าข้อมูลของเราเกี่ยวกับโลกของญินจะค่อนข้างจำกัดแต่เราสามารถพิสูจน์ว่าเหล่าญินเคยมีศาสนทูตที่เป็นญินก่อนการสร้างนบีอาดัมโดยอาศัยเหตุผลต่อไปนี้:1. เหล่าญินล้วนมีหน้าที่ทางศาสนาเฉกเช่นมนุษย์เราแน่นอนว่าหน้าที่ทางศาสนาย่อมเป็นผลต่อเนื่องจากการสั่งสอนศาสนาด้วยเหตุนี้จึงมั่นใจได้ว่าอัลลอฮ์ทรงเคยแต่งตั้งศาสนทูตสำหรับกลุ่มชนญินเพื่อการนี้2. เหล่าญินล้วนต้องเข้าสู่กระบวนการพิพากษาในวันกิยามะฮ์เฉกเช่นมนุษย์เราซึ่งโดยทั่วไปแล้วก่อนกระบวนการพิพากษาทุกกรณีจะต้องมีการชี้แจงข้อกฏหมายจนหมดข้อสงสัยเสียก่อนและการชี้แจงให้หมดข้อสงสัยคือหน้าที่ของบรรดาศาสนทูตนั่นเอง
  • ปีศาจ (ซาตาน) มาจากหมู่มะลาอิกะฮฺหรือญิน ?
    28269 การตีความ (ตัฟซีร) 2553/12/22
    เกี่ยวกับคำถามที่ว่าชัยฎอนเป็นมะลาอิกะฮฺหรือญินมีมุมมองและทัศนะแตกต่างกันแหล่งที่มาของความขัดแย้งนี้เกิดจากเรื่องราวการสร้างนบีอาดัม (อ.) เนื่องจากเป็นคำสั่งของพระเจ้ามวลมะลาอิกะฮ์ทั้งหลายจึงได้กราบสุญูดอาดัมแต่ซาตานไม่ได้ก้มกราบบางคนกล่าวว่าชัยฎอน (อิบลิส) เป็นมะลาอิกะฮฺ, โดยอ้างเหตุผลว่าเนื่องจากโองการอัลกุรอานกล่าวละเว้น, อิบลิสไว้ในหมู่ของมะลาอิกะฮฺ (มะลาอิกะฮ์ทั้งหมดลดลงกราบยกเว้นอิบลิส) ดังนั้นอิบลิส
  • เนื่องจากอัลลอฮฺทรงรอบรู้เหนือโลกและจักรวาล ฉะนั้น วัตถุประสงค์การทดสอบของอัลลอฮฺคืออะไร?
    28197 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/03/08
    ดังที่ปรากฏในคำถามว่าการทดสอบของอัลลอฮฺไม่ได้เพื่อการค้นหาสิ่งที่ยังไม่รู้เนื่องจากอัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงปรีชาญาณเหนือทุกสรรพสิ่งแต่อัลกุรอานหลายโองการและรายงานที่ตกมาถึงมือเรากล่าวว่าการทดสอบเป็นแบบฉบับหนึ่งและเป็นกฎเกณฑ์ของพระเจ้าที่วางอยู่บนแบบฉบับอื่นๆอันได้แก่การอบบรมสั่งสอนการชี้นำโดยรวมของพระเจ้าอัลลอฮฺ
  • อายะฮ์ إِذا مَا اتَّقَوْا وَ آمَنُوا وَ عَمِلُوا الصَّالِحاتِ ثُمَّ اتَّقَوْا وَ آمَنُوا ثُمَّ اتَّقَوْا وَ أَحْسَنُوا وَ اللَّهُ یُحِبُّ الْمُحْسِنین การกล่าวซ้ำดังกล่าวมีจุดประสงค์ใด?
    28134 การตีความ (ตัฟซีร) 2555/02/07
    ในแวดวงวิชาการมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องการย้ำคำว่าตักวาในโองการข้างต้นบ้างเชื่อว่ามีจุดประสงค์เพื่อให้เล็งเห็นความสำคัญของประเด็นเกี่ยวกับตักวาอีหม่านและอะมั้ลที่ศอลิห์
  • เมื่ออัลลอฮฺ มิทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหลายจากสิ่งใดทั้งหมด, หมายความว่าอำนาจของพระองค์ได้ถ่ายโอนไปสู่วัตถุปัจจัยกระนั้นหรือ?
    26074 รหัสยทฤษฎี 2555/05/17
    ใช่แล้ว การสร้างจากสิ่งไม่มีตัวตนมีความหมายตามกล่าวมา, เนื่องจากคำว่า ไม่มีตัวตน คือไม่มีอยู่ก่อนจนกระทั่งอัลลอฮฺ ทรงสร้างสิ่งนั้นขึ้นมา รายงานฮะดีซก็กล่าวถึงประเด็นนี้ไว้เช่นกันว่า อำนาจสัมบูรณ์ของพระเจ้า มีความเป็นหนึ่งเดียวกันกับคุณลักษณะอื่นของพระองค์ ซึ่งเกินเลยอำนาจความรอบรู้ของมนุษย์ เนื่องจากสรรพสิ่งถูกสร้างทั้งหลายได้ถูกสร้างขึ้นมา จากสิ่งไม่มี ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วสรรพสิ่งถูกสร้างทั้งหลาย เปรียบเสมือนภาพที่ถ่ายโอนอำนาจสัมบูรณ์ของพระเจ้า เราเรียกนิยามนี้ว่า “การสะท้อนภาพ”[1]ซึ่งในรายงานฮะดีซได้ใช้คำว่า “การเกิดขึ้นของคุณลักษณะ” : อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงเป็นพระผู้อภิบาลของเราที่มีความเป็นนิรันดร์ ความรอบรู้คือ อาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีความรอบรู้อันใด การได้ยินคืออาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีการได้ยินใดๆ การมองเห็นคือ อาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีการมองเห็นอันใด อำนาจคืออาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีอำนาจอันใด และเนื่องจากพระองค์คือ ผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหลาย ทำให้สิ่งเหล่านั้นมีและเป็นไป ความรู้ของพระองค์ได้ปรากฏบนสิ่งถูกรู้จักทั้งหลาย การได้ยิน ได้ปรากฏบนสิ่งที่ได้ยินทั้งหลาย การมองเห็นได้ปรากฏบนสิ่งมองเห็น และอำนาจของพระองค์ ...